news_promotions_readmore1know-vibration-meternewid = 643 ทำความรู้จัก “เครื่องวัดความสั่นสะเทือน” ตัวช่วยสำคัญในการบำรุงเครื่องจักร ;
ทำความรู้จัก “เครื่องวัดความสั่นสะเทือน” ตัวช่วยสำคัญในการบำรุงเครื่องจักร
Share

ทำความรู้จัก “เครื่องวัดความสั่นสะเทือน” ตัวช่วยสำคัญในการบำรุงเครื่องจักร

เครื่องจักรแทบทุกชนิดที่ใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถสร้าง “แรงสั่นสะเทือน” โดยเป็นผลมาจากการเดินเครื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ แต่เชื่อว่าเจ้าของโรงงาน ธุรกิจ และผู้ปฏิบัติงานคงทราบกันดีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเครื่องจักรเกิดการสั่นสะเทือนมาก เป็นจังหวะผิดปกติ เสียงสั่นดัง หรือเกิดความร้อน นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเครื่องจักรมีการทำงานที่ผิดแปลกไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตลดลง จึงต้องมีการตรวจสอบสภาพ วิเคราะห์ และซ่อมบำรุง โดยอาศัยเครื่องมืออย่าง “เครื่องวัดความสั่นสะเทือน” ที่ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักร

เครื่องวัดความสั่นสะเทือนคืออะไร? มีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง? เป็นประโยชน์ต่อโรงงานและธุรกิจมากน้อยเพียงไหน? มาหาคำตอบไปพร้อมกับ PAT ในบทความนี้

เครื่องวัดความสั่นสะเทือนคืออะไร?

เครื่องวัดความสั่นสะเทือน หรือ Vibration Analyzer คือ เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์และตรวจสอบการสั่นของวัตถุ ซึ่งเป็นการตรวจสอบการตอบสนองของวัตถุหรือเครื่องจักรให้เป็นไปตามมาตรฐานการสั่นสะเทือน (ISO 2372:1974) เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องจักรนั้นๆ สามารถดำเนินงานได้เต็มประสิทธิภาพ และไม่มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น

โดยทั่วไป การวัดแรงสั่นสะเทือนนั้นจะวิเคราะห์จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. ระยะทางของการสั่นสะเทือน (Displacement)

คือ การวัดการสั่นในแต่ละรอบว่ามีระยะเคลื่อนที่ไปมากแค่ไหนจากจุดอ้างอิงแรก โดยเป็นการวัดแบบ “เต็มคลื่น (Peak To Peak)” ซึ่งนิยมใช้หน่วยวัดเป็น “มิลลิเมตร (mm) หรือ นิ้ว (inch)” โดยการวัด Displacement มักจะใช้วัดเครื่องจักรที่มีรอบต่ำ หรือไม่เกิน 1,200 รอบต่อนาที หรือมีระดับความถี่การสั่นสะเทือนไม่เกินกว่า 20 Hz

2. ความเร็ว (Velocity)

คือ การวัดความเร็วในแต่ละรอบการสั่นสะเทือน โดยจะเป็นการวัดแบบ RMS และนิยมใช้หน่วยวัดเป็น “มิลลิเมตรต่อวินาที (mm/s)” ปัจจัยการวัดแรงสั่นสะเทือนนี้สามารถใช้ได้กับเครื่องจักรที่มีความเร็วรอบมากกว่า 1,200 รอบต่อนาที และมีระดับความถี่การสั่นสะเทือนอยู่ระหว่าง 20 Hz ถึง 1,000 Hz

3. อัตราเร่ง (Acceleration)

คือ การวัดอัตราความเร็วเครื่องจักรจากศูนย์ถึงจุดสูงสุดในแต่ละรอบการสั่นสะเทือน โดยมีหน่วยวัดเป็น “มิลลิเมตรต่อวินาทียกกำลังสอง (mm/s2)” ซึ่งใช้ในการวัดการสั่นสะเทือนความถี่สูงตั้งแต่ 10 kHz ขึ้นไปนั่นเอง

สาเหตุของการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรมีหลากหลาย อาทิ ความไม่สมดุลของการหมุน การชำรุดของเฟือง ชิ้นส่วนเครื่องจักรหลุดหลวม เครื่องจักรเสื่อมสภาพจากการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ฯลฯ โดยระดับความรุนแรงของการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรนั้นแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับปกติ ที่การสั่นสะเทือนอยู่ในเกณฑ์ปกติ ตามด้วย ระดับการสั่นสะเทือนผิดปกติ คือมีการสั่นที่สูงกว่าปกติ ต้องติดตามอาการและวางแผนซ่อมบำรุงอย่างใกล้ชิด และสุดท้ายคือ ระดับอันตราย เป็นระดับที่ควรหยุดการผลิตก่อนเครื่องจักรจะเกิด Breakdown เพื่อเร่งแก้ไขโดยด่วน

หลักการทํางานเครื่องวัดความสั่นสะเทือนเป็นอย่างไร?

ในหลักการทํางานเครื่องวัดความสั่นสะเทือนนั้น อันดับแรกต้องพิจารณาจาก “จุดการสั่นสะเทือน” ประกอบกับ “ลักษณะโครงสร้างของเครื่องจักร” โดยตำแหน่งที่วัดนั้นต้องเข้าถึงได้และมีความปลอดภัยด้วย สำหรับในจุดการวัดที่เหมาะสมคือจุดเกิดการสั่นสะเทือนมากที่สุดหรือเป็นจุดที่ใกล้ที่สุด อาทิ แบริ่ง ตลับลูกปืน หรือจุดที่รับภาระ (Load) มากที่สุด เป็นต้น

นอกจากนี้ ควรมีการวัดความสั่นสะเทือนตามแนวแกนต่างๆ ด้วย ทั้งแนวดิ่ง (Vertical), แนวนอน (Horizontal) และ แนวแกนเพลา (Axial) โดยแต่ละแกนจะบ่งบอกถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรได้อย่างละเอียดมากขึ้นนั่นเอง

ประโยชน์ของเครื่องวัดความสั่นสะเทือนต่อธุรกิจและโรงงาน

แน่นอนว่าธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด ทำให้การผลิตสินค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และการใช้งานต่อเนื่องโดยขาดการดูแลนี้เองที่อาจทำให้เครื่องจักรเสียหาย (Breakdown) ทำให้การผลิตหยุดชะงัก ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามออเดอร์ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อพนักงานโรงงานอีกด้วย ซึ่งการตรวจสภาพเครื่องจักรโดยใช้เครื่องวัดความสั่นสะเทือนนั้นสามารถใช้ประโยชน์ ดังนี้

  • ติดตั้งง่ายและใช้ต้นทุนต่ำ

การวัดค่าการสั่นสะเทือนผ่านเครื่องวัดความสั่นสะเทือนนั้นสามารถทำได้สะดวกรวดเร็ว เพียงติดตั้ง Vibration Transmitter และ Transducer กับเครื่องจักร และดำเนินการวัดค่าผ่านตัวเครื่องเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องมืออะไรเพิ่มเติม หรือหยุดการเดินเครื่องจักรเพื่อตรวจสอบ

  • มีข้อมูลตัวเลข ช่วยวิเคราะห์ได้แม่นยำ

เมื่อใช้เครื่องวัดความสั่นสะเทือนกับเครื่องจักร โดยเฉพาะเครื่องรุ่นใหม่ที่มีการบันทึกค่าความสั่นสะเทือน, FFT Spectrum และ Time waveform เพื่อนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียดในซอฟแวร์บนคอมพิวเตอร์ การวิเคราะห์ความสั่นสะเทือนได้อย่างแม่นยำ จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ลดการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนหรือการซ่อมบำรุงอย่างไม่รู้จบ

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

หากโรงงานได้ใช้เครื่องวัดความสั่นสะเทือนเพื่อตรวจสอบและซ่อมบำรุงต่อเนื่อง ก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าอะไหล่ ค่าแรงทีมงานช่างซ่อม และรายได้ที่อาจเสียไปในช่วง Shutdown เพื่อซ่อมบำรุง หมดกังวลเรื่องการเสียเงินก้อนใหญ่หรือเสียโอกาสในการทำกำไรไปได้เลย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ “เครื่องวัดความสั่นสะเทือน” ที่เป็นกุญแจสำคัญอันดับต้นๆ ของธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรม ในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเครื่องจักร ซึ่งอาจนำมาสู่ความเสียหายและการขาดทุนได้

ฉะนั้นเจ้าของธุรกิจโรงงานจึงควรเลือกใช้เครื่องวัดความสั่นสะเทือนที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น

สินค้า SPM เครื่องวัดความสั่นสะเทือนจาก P&A Technology

หากคุณมีความสนใจหรือต้องการเครื่องวัดความสั่นสะเทือน (Vibration Analyzer) คุณภาพสูง ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ที่ PAT (P&A Technology) เราพร้อมจำหน่ายเครื่องวัดความสั่นสะเทือนจากแบรนด์ SPM (SPM Instrument) ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวในโลกที่มีการวิเคราะห์ “Shock Pluse” สามารถตรวจจับสัญญาณความผิดปกติของ Bearing และ Gearbox ในเครื่องจักรรอบต่ำได้ดีกว่าการอาศัยสัญญาณการสั่นสะเทือนทั่วไป

พวกเรา P&A Technology มุ่งมั่นเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ด้านวิศวกรรมที่มีคุณภาพ ที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก ประกอบกับประสบการณ์มากกว่า 25 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ ของลูกค้าด้านวิศวกรรมอย่างครบวงจร

ติดต่อสอบถาม สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทาง

โทร.: 02-454-2478

Email: info@pat.co.th

LINE OA: https://lin.ee/4FaAArm0d

ติดตามข่าวสารและโปรโมชันใหม่ๆ จากเราก่อนใคร

Facebook: P&A Technology Company Limited

Instagram: pandatech_officia